แมวอะบิสซิเนียนสายพันธุ์แท้

Abyssinian

แอคทีฟ ฉลาด ขี้อาย
แมวอะบิสซิเนียน เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่เก่าแก่ที่สุดนับพันปีและเป็นต้นตระกูลแมวขนสั้นหลายสายพันธุ์ทั้ง แมววิเชียรมาศ แมวเบอร์มีสและสายพันธุ์อื่น ๆ ของแมวพื้นเมืองเอเชีย ชาวอิยิปต์โบราณให้ความสำคัญกับแมวอะบิสซิเนียนมาก ยกย่องให้เป็นตัวแทนของเทพเจ้าและมีกฎหมายลงโทษผู้ที่ทำร้ายแมวอย่างเคร่งครัด แมวอะบิสซิเนียน ทำให้เหล่าทาสแมวรู้ว่า นอกจากหน้าตาของแมวจะแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอดช่วงพันปีที่ผ่านมา นิสัยของแมวก็เช่นกัน แมวยังคงเป็นเจ้านายที่ได้ทุกอย่างแค่เพียงปรายตามอง แมวไม่เชื่อฟังคำสั่งใดใดทั้งนั้น แมวมีเสน่ห์ล่อลวงเหล่าทาสให้รักไม่ต่างจากแมวเทพในอดีต
ประเทศต้นกำเนิด: เอธิโอเปีย
ประเภท: shorthair
น้ำหนัก 4-7.5 กิโลกรัม
อายุขัย 15+ ปี
ลายขน: ลายสลิด (tabby)
สีขน: น้ำเงิน, น้ำตาล, ครีม
" รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม ขนสั้นแน่นและดวงตากรีดอายไลเนอร์"
แมวอะบิสซิเนียนเป็นแมวลายสลิด

ลักษณะนิสัย

คุณลักษณะ

ระดับพลังงาน
5/5
ขี้บ่น
1/5
อดทนต่อสภาพแวดล้อม
4/5
ต้องการดูแลความสะอาด
2/5

บุคลิกภาพ

ขี้เล่น
5/5
ความฉลาด
5/5
รักอิสระ
3/5
เชื่อฟังคำสั่ง
4/5

การแสดงออก

การแสดงออกว่ารัก
2/5
เป็นมิตรกับเด็ก
2/5
เป็นมิตรกับสัตว์ชนิดอื่น
4/5
ต้องการความสนใจ
4/5

ความเป็นมาของสายพันธุ์

แมวอะบิสซิเนียนมีต้นกำเนิดที่ Abyssinia หรือเอธิโอเปียในปัจจุบัน คาดว่าบรรพบุรุษเป็นแมวป่าแอฟริกา แต่แมวกลับไปโด่งดังในอิยิปต์ เนื่องจากแทบทุกผนังกำแพงปิรามิด หลุมศพ สุสาน ต่างมีอักษรจารึก รูปภาพและรูปปั้นแมวอะบิสซิเนียนอยู่ทั่วไปหมด ซึ่งมีอายุเก่าแก่ราว 4000 – 6000 ปีก่อน สันนิษฐานว่ามนุษย์มีการเลี้ยงแมวมาตั้งแต่ตอนนั้น นับว่าแมวอะบิสซิเนียนเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ถึงปัจจุบันโดยที่รูปร่างหน้าตาแทบไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย

อ่าน 10 ความลับที่แมวเหมียวใช้ล่อลวงทาสแมวให้หลงรัก

ชาวอิยิปต์โบราณมีความเชื่อว่าเทพเจ้าบาธ (Bastet) เทพสตรีซึ่งมีศีรษะเป็นแมว เป็นเทพเจ้าแห่งการกำเนิด ปกป้องมนุษย์จากวิญญาณชั่วร้ายและโรคระบาด ทำให้แมวเทพสัญลักษณ์ของเทพเจ้าบาธได้รับความเคารพไปด้วย ถึงขนาดมีกฎหมายคุ้มครองแมว ใครก็ตามที่ฆ่าแมวจะต้องถูกลงโทษขั้นสูงสุดอาจถึงตาย

แม้ว่าถิ่นกำเนิดแมวจะเกิดในเอธิโอเปีย แต่การปรับปรุงสายพันธุ์แมวนั้นเริ่มขึ้นในอังกฤษ แมวอะบิสซิเนียนตัวแรกถูกนำเข้าสู่อังกฤษ โดยนายทหารอังกฤษที่มารบในสงคราม The Abyssinian War ช่วงปีค.ศ. 1868 ได้นำแมวชื่อ Zula กลับอังกฤษด้วย เหตุการณ์ชีวิตแมวเป็นอย่างไรไม่ปรากฎ พบเพียงภาพวาดแมวจัดแสดงไว้ที่ The Crystal Palace กรุงลอนดอน

ภาพของ Zula มีหัวกลมและหูค่อนข้างเล็กกว่าแมวอะบิสซิเนียนในปัจจุบัน ทฤษฎีที่ 1 มีความเป็นไปได้ว่าชาวอังกฤษปรับปรุงพันธุ์แมวอะบิสซิเนียนดั้งเดิมกับแมวหูกระต่าย (British bunny cat) แมวพื้นเมืองของอังกฤษ จนกระทั่งได้สายพันธุ์มาตรฐานแบบแมวอะบิสซิเนียนในปัจจุบัน

ทฤษฎีที่ 2 นักวิทยศาสตร์ระบุว่าพันธุกรรมของแมวอะบิสซิเนียนมีความใกล้ชิดกับแมวแถบเอเชีย เช่น แมวไทยแท้อย่างแมววิเชียรมาศ เป็นต้น จึงเกิดทฤษฎีใหม่ที่กล่าวว่า มีคนนำแมวจากเอเชียข้ามมหาสมุทรไปอังกฤษและขยายพันธุ์กลายเป็นแมวอะบิสซิเนียนในปัจจุบัน แต่สาเหตุที่ไม่เปลี่ยนชื่อสายพันธุ์ เพื่อให้เกียรติกับ Zula1 แมวอะบิสซิเนียนตัวแรกที่ได้รับการบันทึกว่าได้เดินทางออกจากเอธิโอเปียสู่ดินแดนอังกฤษ

ความต้องการพื้นฐาน

การดูแลทั่วไป

แมวอะบิสซิเนียนเลี้ยงง่าย ค่อนข้างรักสะอาดจึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องแมวจะสกปรกเลอะเทอะเลย นอกจากนั้นขนยังสั้นง่ายต่อการดูแลความสะอาด

สิ่งที่เจ้าของต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ นิสัยของแมว เพราะแมวอะบิสซิเนียนขึ้นชื่อเรื่องความซน ชอบปีนป่าย ชอบที่สูง ต้องการออกกำลังกายปล่อยพลังเป็นอย่างมาก คลั่งของเล่นและต้องการความสนใจจากเจ้าของ ในขณะเดียวกันแมวก็มีนิสัยขี้อาย เงียบขรึมและมีโลกส่วนตัวสูง เจ้าแมวอะบิสซิเนียนที่ถูไถอ้อนเจ้าของในตอนเช้า อาจเปลี่ยนเป็นแมวเย็นชาที่เรียกยังไงก็ไม่หันในตอนเย็นก็เป็นได้ เหล่าทาสอาจต้องรับมือกับแมวสองบุคลิกหากอยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้

อ่าน จัดบ้านตามใจแมว จัดบ้านให้สนุก ปลอดภัยและเข้าใจทุกความต้องการของแมว

แมวอะบิสซิเนียนฉลาดมากและสามารถเข้าใจสิ่งที่มนุษย์พยายามจะสอนได้เป็นอย่างดี แต่แมวจะทำตามคำสั่งมั้ยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง การเลี้ยงแมวที่ฉลาดและจดจำเก่งนั้น ประสบการณ์ที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากต้องการให้แมวเคยชินกับบางสิ่ง เช่น อาบน้ำ แปรงขน ตัดเล็บหรือแปรงฟัน เจ้าของอาจต้องหาเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ชวนให้แมวร่วมกิจกรรมอย่างสนุก หลีกเลี่ยงการบังคับเพราะแมวจะจดจำและเกลียดกิจกรรมนั้นไปเลย

ทริค!!! ขนมแมวเลีย ตัวช่วยเริ่ด ๆ ที่แสดงถึงความเป็นมิตรและช่วยทำให้ทุกกิจกรรมง่ายขึ้นเยอะ

สารอาหาร

แมวอะบิสซิเนียนต้องการอาหารแมวคุณภาพดีเหมือนแมวทั่ว ๆ ไป ในปริมาณที่พอเหมาะและเหมาะสมกับช่วงวัยของแมว

อย่าลืม!!! อ่านฉลากอาหารว่ามีส่วนประกอบของ ทอรีน (Taurine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับแมว เมื่อร่างกายขาดทอรีนทำให้แมวมีโอกาสเป็นโรคหัวใจโต (Dilated cardiomyopathy) และจอประสาทตาเสื่อม (Retina degeneration)3 ซึ่งสายพันธุ์แมวอะบิสซิเนียนมีความเสี่ยงสูงกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ

การดูแลความสะอาด

แมวอะบิสซิเนียนขนสั้นแต่หนาแน่นและละเอียดมาก ขนร่วงปานกลาง ต้องการการดูแลทำความสะอาดไม่มากนัก และยังอาบน้ำค่อนข้างง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ (ถ้าเริ่มอาบน้ำตั้งแต่เป็นลูกแมวและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการอาบน้ำ)

ทำความสะอาดตัวแมว – แมวรักสะอาดและดูแลตัวเองค่อนข้างดีอยู่แล้ว การใช้ผ้าสะอาดเช็ดตัวแมวก็เพียงพอ หรืออาจเพิ่มแชมพูแห้งหรือสเปรย์ทำความสะอาดสำหรับสัตว์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการทำความสะอาดแมวโดยไม่ต้องอาบน้ำบ่อย ๆ

ทำความสะอาดใบหน้าและหู – แมวอะบิสซิเนียนไม่ค่อยมีปัญหา แมวตาแฉะ แต่อย่างไรก็ตามควรทำความสะอาดใบหน้า รอบตา ใบหู จมูกและปากอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

อาบน้ำแมว – แนะนำเดือนละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่แมวผลัดขน การอาบน้ำช่วยกำจัดขนที่ร่วงได้เป็นอย่างดี

แปรงขน – แปรงขนแมวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเก็บขนที่หลุดร่วงออก ลดโอกาสก้อนขนอุดตันทางเดินอาหาร (Hair ball) แม้ว่าขนแมวจะสั้นก็เกิดก้อนขนอุดตันได้เช่นเดียวกับแมวขนยาว

แปรงฟันแมว – ควรแปรงฟันทุกวันเพื่อสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี ลดโอกาสเกิดคราบหินปูนและเหงือกอักเสบ

ตัดเล็บแมว – ทุก 2 สัปดาห์

ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย

แมวอะบิสซิเนียนมีโอกาสป่วยมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วยโรคทางพันธุกรรม ก่อนเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้อาจต้องเตรียมเงินไว้ตรวจสุขภาพและรักษาหากแมวเกิดป่วยขึ้นมา แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลยทีเดียว

สะบ้าเคลื่อน (Patellar luxation) – จากการศึกษาทั้งในยุโรปและอเมริกาพบว่ามีโอกาสที่แมวอะบิสซิเนียนจะมีอาการสะบ้าเคลื่อนได้ถึง 38%4 หากอาการไม่รุนแรงมากแค่เพียงออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงพื้นลื่นและคุมน้ำหนักก็เพียงพอ ในรายที่อาการรุนแรงอาจต้องได้รับการผ่าตัด

จอประสาทตาเสื่อม (Retinal atrophy / Retinal degeneration) – มีโอกาสเกิดขึ้นกับแมวอะบิสซิเนียนมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ พบได้ตั้งแต่ลูกแมว 8 สัปดาห์จนถึงแมวอายุ 2 ปี หากเกิดขึ้นแล้วมักตาบอดในที่สุด4

Pyruvate kinase deficiency (PKD) – เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงของแมวเปราะบางและแตกง่าย แมวมักแสดงอาการซีดเนื่องจากโลหิตจาง

โรคไตเนื่องจากการสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์ (Renal amyloidosis) – ร่างกายของแมวอะบิสซิเนียนมีโอกาสเกิดการสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์ (Amyloid) ทุกอวัยวะทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์ที่ไต ส่งผลให้แมวไตวายในที่สุด

โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus) – แมวอายุ 10 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวานมากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ

โรคผิวหนังอักเสบจากการแพ้ (Atopic dermatitis) – แมวผิวหนังเซนซิทีฟต่อสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะแมวแพ้น้ำลายหมัด ทุกครั้งที่แปรงขนหรืออาบน้ำ อย่าลืมตรวจดูตามตัวว่าแมวมีร่องรอยโรคผิวหนังหรือไม่

กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) – แมวอะบิสซิเนียนมีความเสี่ยงโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจเริ่มมีอาการตั้งแต่แมวอายุ 2-3 ปีหรือเริ่มมีอาการในแมวแก่อายุ 9-10 ปี4

โรคเหงือกและฟัน (Periodontal disease) – การสะสมของคราบแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดหินปูน เหงือกอักเสบ แมวปากเหม็นตามมา และแมวอะบิสซิเนียนก็จัดอยู่ในสายพันธุ์อันดับหนึ่งที่มีปัญหาช่องปากและฟัน

คลอดยาก (Dystocia) – แมวอะบิสซิเนียน 100 ตัวจะมีแมว 1 ตัวที่มีปัญหาคลอดยาก4

ราคาเริ่มต้น

25,000 บาท

แมวพันธุ์นี้เหมาะสมกับใคร

แมวอะบิสซิเนียนฉลาดและเป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความขี้อายและเงียบขรึมในบางเวลา หากใครชอบความท้าทายที่ต้องตามใจแมวสองบุคลิกก็เหมาะกับสายพันธุ์นี้

แมวชอบออกกำลังกาย ปีนป่ายและค่อนข้างซนมาก ดังนั้น บ้านสำหรับแมวควรมีพื้นที่มากพอให้แมวเล่น ที่สำคัญเจ้าของต้องมีเวลาเล่นกับแมวด้วยนะ

แมวมีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยสารพัดโรค!!! นอกจากทาสแมวจะช่างสังเกตอาการผิดปกติของแมวแล้ว ทาสแมวอะบิสซิเนียนคงต้องเตรียมเงินเยอะ ๆ ไว้จ่ายค่าตรวจรักษาแมวเนื่องจากแมวมีความเสี่ยงที่จะป่วยจากโรคต่าง ๆ ที่เยอะแยะมากมาย จนไม่น่าเชื่อว่าแมวจะยังสืบสายพันธุ์มานานร่วมพันปี นับว่าเป็นแมวเทพที่สามารถเอาชนะการคัดเลือกตามธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

 

อ้างอิง

  1. https://cattime.com/cat-breeds/abyssinian-cats#/slide/1
  2. https://www.petfinder.com/cat-breeds/abyssinian/
  3. https://www.vetstream.com/treat/felis/diseases/taurine-deficiency
  4. Gough, A., Thomas, A., & O’Neill, D. (2018). Breed Predispositions to Disease in Dogs and Cats (3rd ed.). Wiley-Blackwell.
  5. D. (2014). The Cat Encyclopedia: The Definitive Visual Guide (Illustrated ed.). DK.
  6. D. (2013). The Complete Cat Breed Book: Choose the Perfect Cat for You (Dk the Complete Cat Breed Book) (Illustrated ed.). DK.

แชร์โพสต์นี้

แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไรเกี่ยวกับแมวพันธุ์นี้

ไม่พลาดทุกเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

กด Subscribe เพื่อรับข้อมูลข่าวสาร สาระดี ๆ และโปรโมชั่นสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงจากเว็บไซต์กาโตโระทางอีเมลได้แล้ววันนี้!

Subscribe to our Pet lover list - interested in cat
แมวสายพันธุ์อื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า