ในหลาย ๆ บ้านที่เลี้ยงสุนัขตัวเมียอยู่แล้วยังไม่ได้ทำหมัน ตามปกติก็จะเห็นสุนัขตัวเมียมีอาการเป็นฮีท (อวัยวะเพศขยายใหญ่ มีเลือดสีแดงจาง ๆ ไหลออกจากอวัยวะเพศ) และหากมีตัวผู้อยู่บริเวณนั้น บางครั้งก็มีการผสมพันธุ์กันเกิดขึ้นและมีการตั้งท้องตามมา สักพักก็จะเห็นท้องสุนัขโตขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสุนัขของเราท้องแล้วจ้า
หากจำวันที่ผสมพันธุ์ได้ก็พอจะเดาได้คราว ๆ ว่าแม่สุนัขของเราจะคลอดประมาณวันไหน แต่หากจำไม่ได้ หรือไม่รู้ว่าแอบไปผสมกันมาตอนไหน เห็นอีกทีก็ท้องโตแล้ว คงกังวลอยู่ไม่น้อยว่าสุนัขท้องกี่วันแล้ว แล้วจะคลอดวันไหนกันแน่นะ วันนี้กาโตโระมีวิธีง่าย ๆ ในการสังเกตอาการสุนัขใกล้คลอดมาฝากค่ะ ติดตามในบทความนี้ได้เลย
สุนัขตั้งท้องกี่วัน
ปกติแล้วสุนัขจะตั้งท้องประมาณ 57 – 72 วัน นับจากวันแรกที่ผสมพันธุ์ ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละสายพันธุ์ มีระยะการตั้งท้องโดยเฉลี่ยประมาณ 65 วัน หากเจ้าของยังไม่แน่ใจว่าสุนัขของเราท้องรึเปล่าแนะนำให้พาไปตรวจกับสัตวแพทย์ได้เลยค่ะ ซึ่งสามารถตรวจอัลตร้าซาวด์ดูได้ตั้งแต่อายุครรถ์ 21 วันกันเลย ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สุนัขท้องกี่เดือนกันแน่และถ้าพาไปฝากท้องจะได้ตรวจอะไรบ้าง
6 อาการสุนัขใกล้คลอด
1. มีพฤติกรรมทำรังหรือหลบซ่อนตัว
สุนัขหลาย ๆ ตัวก่อนคลอดลูกจะเริ่มขุดคุ้ยพื้น เบาะรองนอน หรือสุนัขที่เลี้ยงปล่อยในบริเวณที่มีพื้นดินมักจะขุดหลุม เพื่อรองรับการคลอดของตัวเองเมื่อเริ่มมีอาการใกล้คลอด ซึ่งเป็นสัญชาตญาณตามปกติของสุนัข
เจ้าของอาจจะหาผ้าสะอาดให้สุนัขใช้เพิ่มขึ้น หรืออาจจะใช้ผ้าคลุมกรงเพิ่มเพื่อลดสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อมให้สุนัขมีความสบายใจในการคลอดมากขึ้นได้ ส่วนสุนัขที่ขุดหลุมดินคลอดอยู่นอกบ้าน เจ้าของก็ต้องคอยตรวจสอบระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยจากสัตว์มีพิษรอบบ้านด้วย
2. กระวนกระวาย หอบ
สุนัขเมื่อใกล้คลอดมักจะเริ่มมีอาการกระวนกระวาย อยู่ไม่สุข ลุกลี้ลุกลน เดินไปเดินมา ไม่ค่อยนอนตามเวลานอนปกติ และบางครั้งก็มีอาการหอบร่วมด้วย โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์หน้าสั้น เช่น ปั๊ก อิงลิช บลูด็อก เฟรนช์บลูด็อก เป็นต้น มักจะแสดงอาการหอบให้เห็นอย่างชัดเจนเนื่องจากเริ่มมีความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายท้อง และปวดท้องคลอดจากการที่มดลูกเริ่มมีการบีบตัวโดยที่ยังไม่สามารถเห็นได้จากภายนอกนั่นเอง
ข้อสังเกต : หากพบว่าสุนัขใกล้คลอด ท้องแข็ง โดยที่มีการเกร็งช่องท้องแข็งเป็นระยะ ๆ แสดงว่าสุนัขเข้าสู่ระยะการคลอดแล้ว ให้เจ้าของเตรียมตัวช่วยคลอดได้เลย หากพบว่าสุนัขเบ่งอย่างรุนแรงแต่ไม่มีการคลอดลูกสุนัขออกมาภายใน 30 นาที หรือเบ่งเบา ๆ แบบไม่ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ชั่วโมงแล้วยังไม่มีการคลอดลูกสุนัขออกมา แสดงว่าสุนัขมีภาวะคลอดยาก ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
3. เบื่ออาหาร
สุนัขจะเริ่มกินอาหารลดลง หรือในบางตัวในวันที่จะคลอดจะไม่กินอาหารเลย ให้เจ้าของคอยสังเกตว่าสุนัขมีอาการซึมลงผิดปกติ ตัวร้อนมีไข้ด้วยไหม เพราะในบางครั้งยังไม่ถึงกำหนดคลอดแต่สุนัขป่วย ติดเชื้อ ก็อาจจะทำให้สุนัขซึมลงและไม่กินอาหารได้ ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไป แต่หากสุนัขมีอาการเบื่ออาหารร่วมกับอาการอื่น ๆ ที่บ่งชี้ว่าใกล้คลอดแล้ว ก็เตรียมตัวเฝ้าคลอดได้เลย
4. อวัยวะเพศขยายใหญ่และมีเมือกไหลออกจากอวัยวะเพศ
เพื่อรองรับการคลอดสุนัขที่เริ่มเข้าสู่ระยะใกล้คลอดจะพบว่ามีการขยายใหญ่ของอวัยวะเพศ และมีเมือกหนืด ๆ สีใสหรือสีขาวใส ไหลออกจากอวัยวะเพศได้
แล้วสุนัขท้องที่มีเมือกสีอื่น ๆ ไหลออกสามารถบ่งบอกอะไรได้บ้างนะ?
- เมือกเลือด : หากพบเมือกที่ไหลออกมาเป็นสีแดงเหมือนเลือดสดบ่งบอกว่าสุนัขของคุณอาจจะกำลังมีภาวะแท้ง ไม่ว่าอายุครรถ์จะกี่วันแล้วก็ตาม ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจอัลตร้าซาวด์
- เมือกสีเขียวสด : สีเขียวคือสีที่เกิดจากการลอกหลุดของรกกับเยื่อบุมดลูกของแม่ บ่งบอกว่าเริ่มเข้าสู่กระบวนการคลอดแล้ว ดังนั้นเมื่อพบว่ามีน้ำสีเขียวไหลออกมาแล้วก็ควรจะมีลูกสุนัขคลอดตามออกมาในทันที หากไม่เห็นว่ามีการคลอดลูกสุนัขออกมาตามต้องรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที
- เมือกสีน้ำตาล : การพบว่าสุนัขมีเมือกสีน้ำตาลไหลออกจากอวัยวะเพศก็อาจจะบอกได้ว่าสุนัขใกล้จะมีการคลอดแล้ว แต่จะบอกได้ไม่ได้ชัดเจนเหมือนสุนัขที่มีน้ำสีเขียวไหลออกมาหรือมีน้ำเมือกสีใสหรือขาวใสไหลออกมามาก ๆ ควรต้องสังเกตพฤติกรรมหรืออาการอื่น ๆ ประกอบกันด้วย เช่น พฤติกรรมการทำรัง อุณหภูมิร่างกายสุนัขที่ลดลง เป็นต้น
ข้อสังเกต : หากสังเกตเห็นเมือกที่ออกมาจากอวัยวะเพศเป็นสีขาวขุ่นปนเหลืองหรือปนเขียว หรือเลือดปนหนอง มีกลิ่นเหม็น แสดงว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นเช่น มีภาวะแท้งแล้วลูกตายในท้อง หรือไม่ได้ท้องแต่เป็นมดลูกอักเสบ ให้เจ้าของรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
5. เต้านมขยายใหญ่ มีน้ำนมไหล
ในสุนัขท้องหากลองบีบที่เต้านมสุนัขแล้วพบว่ามีน้ำนมไหล แสดงว่าสุนัขใกล้จะคลอดแล้ว โดยจะค่อนข้างแม่นยำมากในสุนัขท้องแรก เพราะหากพบว่าสุนัขท้องแรกมีน้ำนมไหลแล้ว ส่วนมากจะมีอาการคลอดตามมาภายใน 24 ชั่วโมง ในขณะที่สุนัขที่เคยมีลูกมาก่อนแล้ว อาจจะพบว่ามีน้ำนมไหลอยู่หลายวันกว่าที่จะมีการคลอดตามมาได้
6. อุณหภูมิร่างกายลดลง
หากมีการติดตามอุณหภูมิร่างกายของสุนัขอย่างต่อเนื่องจะพบว่า เมื่อสุนัขมีอุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว โดยลดลงมากกว่า 2 องศาฟาเรนไฮต์ แสดงว่าสุนัขจะคลอดภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน แต่ก็ไม่เสมอไปในสุนัขทุกตัวที่จะมีอุณหภูมิลดลงจนสังเกตเห็นได้ แนะนำว่าให้สังเกตอาการอื่น ๆ ประกอบด้วยนะคะ
Tip : การวัดอุณหภูมิสุนัขนิยมวัดทางก้น โดยเสียบปรอทเข้าไปทางก้นลึกประมาณ 1 นิ้ว แล้วเอียงปรอทให้ปลายชิดกับผนังลำใส้ จับเวลาประมาณ 30 วินาที นิยมอ่านค่าเป็นองศาฟาเรนไฮต์ อุณหภูมิปกติในสุนัขอยู่ระหว่าง 100 – 102.8 องศาฟาเรนไฮต์ โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้คลอดโดยส่วนมากอุณหภูมิแม่สุนัขมักจะลดลงต่ำกว่า 100 อาศาฟาเรนไฮต์
บทส่งท้าย
เมื่อเจ้าของสุนัขรู้ตัวแล้วว่าสุนัขของตัวเองท้อง เชื่อว่าต้องพยายามดูแลและสังเกตสุนัขตัวเองมากขึ้นแน่นอน มาลองเช็คกันดูสิว่าสุนัขที่บ้านจะมีอาการใกล้คลอดอะไรบ้างที่ตรงกับด้านบน และกาโตโระหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เจ้าของมองเห็นอาการสุนัขใกล้คลอดออกได้ง่ายมากขึ้น เพื่อจะได้เตรียมตัวเฝ้าคลอดและช่วยลดความสูญเสียในระหว่างการคลอดลูกของสุนัขได้นะคะ
อ้างอิง
1.https://www.dvm360.com/view/diagnosing-and-managing-canine-dystocia-proceedings
2.https://www.cuteness.com/article/pregnant-dog-discharge