สุนัขกินช็อกโกแลต: อันตรายจากช็อกโกแลต วิธีสังเกตอาการและการช่วยชีวิตเบื้องต้น

ช็อกโกแลต เป็นอาหารโปรดของใครหลายคน เป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มและขนมหลากหลายชนิดจากทุกมุมโลก บางบ้านมีช็อกโกแลตเป็นขนมประจำบ้าน ดังนั้น เหตุการณ์สุนัขกินช็อกโกแลตโดยไม่ได้ตั้งใจจึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรู้หรือไม่ว่า สุนัขกินช็อกโกแลตเป็นหนึ่งในภาวะฉุกเฉินที่สุนัขได้รับสารพิษและอาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้

อ่านบทความ “10 อาการฉุกเฉินในสุนัข” รับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยและวิธีการดูแลสุนัขเบื้องต้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน 

อาหารของมนุษย์อาจเป็นอันตรายต่อสุนัข

ช็อกโกแลต อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข

ช็อกโกแลตผลิตมาจากเมล็ดโกโก้ ซึ่งมีสารที่เป็นอันตรายต่อสุนัข คือ ธีโอโบรมีน (Methylxanthine Theobromine)  และคาเฟอีน (Caffeine) สำหรับมนุษย์นั้นช็อกโกแลตไม่ได้เป็นอันตราย แต่สำหรับสุนัขช็อกโกแลตไม่ต่างไปจากกินสารพิษเลย1,2

ธีโอโบรมีนและคาเฟอีน ไม่ได้พบเฉพาะจากเมล็ดโกโก้เท่านั้น แต่ยังพบในเมล็ดกาแฟและใบชาอีกด้วย3 ดังนั้น สุนัขกินกาแฟหรือสุนัขกินใบชา ก็ได้รับธีโอโบรมีนและคาเฟอีนเข้าไปเช่นกัน

บทความแนะนำ 9 อาหารยอดฮิตที่คนชอบเอาให้หมากิน จะเป็นอันตรายหรือเปล่า

อันตรายจากช็อกโกแลตที่ส่งผลต่อร่างกายสุนัข

ความอันตรายจากการกินช็อกโกแลตขึ้นอยู่กับปริมาณของธีโอโบรมีนและคาเฟอีนที่ได้รับต่อน้ำหนักตัวของสุนัข และสุนัขมักจะแสดงอาการภายหลังกินช็อกโกแลตเข้าไปประมาณ 1 ชั่วโมง 

ปริมาณของธีโอโบรมีนและคาเฟอีนที่เป็นอันตรายต่อสุนัข1

20 mg/kg: สุนัขเริ่มมีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย

(สุนัขแต่ละตัวมีความไวต่อสารพิษไม่เท่ากัน สุนัขบางตัวอาจแสดงอาการผิดปกติได้แม้ได้รับธีโอโบรมีนและคาเฟอีนในปริมาณน้อยกว่า 20 mg/kg) 

40-50 mg/kg: สุนัขเริ่มมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ (Arrhythmia) อาการที่เจ้าของสังเกตได้คือ กระวนกระวาย ชีพจรเต้นเร็ว หอบ

สุนัขที่ได้รับธีโอโบรมีนและคาเฟอีนมากกว่า 40 mg/kg ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน1

มากกว่า 60 mg/kg: สุนัขเริ่มมีอาการชัก

100-200 mg/kg: สุนัขได้รับสารพิษในปริมาณมาก มีอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิต 

สถานการณ์จริงถ้าหากเห็นสุนัขกินช็อกโกแลต ไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ แต่รีบปฏิบัติตามคำแนะนำ “ทำอย่างไรเมื่อสุนัขกินช็อกโกแลต” รีบพาสุนัขส่งโรงพยาบาลสัตว์ให้เร็วที่สุดพร้อมห่อช็อกโกแลตที่กินเข้าไป จะช่วยให้คุณหมอทราบปริมาณสารพิษที่ได้รับและประเมินอาการสุนัขได้ดียิ่งขึ้น

สุนัขต้องกินช็อกโกแลตมากแค่ไหนจึงจะเป็นอันตราย

ตัวอย่างปริมาณอาหารที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตที่สุนัขกินแล้วทำให้เกิดอาการผิดปกติจนอาจเสียชีวิต

สุนัขกินช็อกโกแลต สุนัขขนาดเล็ก
สุนัขกินช็อกโกแลต สุนัขขนาดกลาง
สุนัขกินช็อกโกแลต สุนัขขนาดใหญ่

อาการของสุนัขกินช็อกโกแลต

อาการของสุนัขแต่ละตัวรุนแรงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนักตัว ปริมาณที่กินเข้าไป ความสามารถในการดูดซึมสารพิษของร่างกาย รวมทั้งระยะเวลาที่ได้รับสารพิษด้วย 

สุนัขกินช็อกโกแลตนอกจากจะเสี่ยงเสียชีวิตจากการได้รับสารธีโอโบรมีนและคาเฟอีนแล้ว ส่วนประกอบสำคัญในอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ช็อกโกแลตบาร์หรือเค้กช็อกโกแลต ทำให้สุนัขมีความเสี่ยงเป็นตับอ่อนอักเสบตามมา1

อาการของสุนัขกินช็อกโกแลต
อาการระยะต่าง ๆ ของสุนัขกินช็อกโกแลต ชาหรือกาแฟ หากปล่อยไว้นานไม่ไปหาหมอสุนัขมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก

ทำอย่างไรเมื่อสุนัขกินช็อกโกแลต

เมื่อสุนัขเผลอกินช็อกโกแลตเข้าไป มีขั้นตอนการจัดการในภาวะฉุกเฉิน ดังนี้ 

1. ถ้าหากเห็นว่าสุนัขกินช็อกโกแลตเข้าไป “ภายใน 1 ชั่วโมง” เจ้าของสามารถทำให้สุนัขอาเจียน ด้วยวิธีที่ถูกต้องและปลอดภัยต่อสุนัข เพื่อลดการดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่างกายแล้วรีบพาสุนัขส่งโรงพยาบาลสัตว์ 

วิธีกระตุ้นให้สุนัขอาเจียนโดยการป้อน 3% ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ (3% Hydrogen peroxide) เป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ถ้าหากความเข้มข้นสูงเกินไปก็อาจระคายเคืองทางเดินอาหารของสุนัขได้1,5

Tip: การป้อน 3% ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์เพื่อทำให้สุนัขอาเจียน ใช้ปริมาณ 1 ml ต่อน้ำหนักตัวสุนัข 2.5 kg หรือ 1 ช้อนชา (5 ml) ต่อน้ำหนักตัวสุนัข 12.5 kg สามารถป้อนซ้ำได้หากสุนัขไม่อาเจียนหลังป้อนครั้งแรก 15 นาที แต่ปริมาณที่ป้อนทั้งหมดต้องไม่เกิน 45 ml6

2. หากวิธีแรกไม่ได้ผล สุนัขไม่อาเจียนหรือเจ้าของสุนัขไม่สามารถหา 3% ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์มาใช้ได้ การป้อนผงถ่าน (Activated charcoal) เพื่อดูดซับสารพิษก็เป็นทางเลือกที่ดี ก่อนรีบพาส่งโรงพยาบาลสัตว์

3. การล้างท้อง (Gastric lavage) โดยสัตวแพทย์ ได้ผลดีหากสุนัขกินช็อกโกแลตเข้าไปไม่เกิน 1 ชั่วโมง 

4. เฝ้าระวังอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นตามมา เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ อุณหภูมิร่างกายสูง ความดันโลหิตสูง และอาการชัก 

5. ธีโอโบรมีนและคาเฟอีน มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและขับถ่ายสารพิษออกทางปัสสาวะค่อนข้างช้า ดังนั้น ควรเฝ้าระวังอาการอย่างน้อย 72 ชั่วโมงภายหลังจากสุนัขกินช็อกโกแลต1

Tip: ปริมาณธีโอโบรมีนที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายจะลดลงเหลือครึ่งหนึ่งภายหลังได้รับสารพิษนาน 17.5 ชั่วโมง และปริมาณคาเฟอีนจะลดลงครึ่งหนึ่งภายหลังได้รับสารพิษนาน 4.5 ชั่วโมง

6. 72 ชั่วโมงอันตรายหลังสุนัขกินช็อกโกแลตที่ต้องเฝ้าระวังอาการผิดปกติ แนะนำให้อยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ และป้อนผงถ่านเพื่อดูดซับสารพิษที่ตกค้างในทางเดินอาหาร 1-4 g/kg ทุก 12 ชั่วโมง จนไม่พบอาการผิดปกติหรือจนกว่าจะผ่าน 72 ชั่วโมงอันตรายไป1

สรุป 

สุนัขกินช็อกโกแลต สุนัขกินกาแฟและสุนัขกินใบชา ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่มีโอกาสทำให้เสียชีวิตได้!!! เมื่อเผลอกินเข้าไปควรรีบแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นและรีบพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ อย่างไรก็ตามทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันสุนัขจากการกินสารพิษและคิดอยู่เสมอว่าช็อกโกแลตเป็นวัตถุอันตรายสำหรับสุนัข ขนมของเราควรเก็บให้พ้นจากปากของสุนัข 


อ้างอิง 

  1. https://www.msdvetmanual.com/toxicology/food-hazards/chocolate?query=chocolate%20toxicity%20calculator 
  2. https://www.cliniciansbrief.com/article/chocolate-toxicosis-border-terrier 
  3. https://www.sciencedirect.com/topics/medicine-and-dentistry/theobromine 
  4. https://www.myfooddata.com/articles/chocolate-high-in-theobromine.php 
  5. https://www.akc.org/expert-advice/health/how-to-make-a-dog-throw-up/ 
  6. https://www.petmd.com/blogs/fullyvetted/2013/may/how-to-make-a-dog-vomit-30304 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า